
Truffle Bar & Restaurant Fine Dining Bangkok
URBANI TRUFFLE BAR & RESTUARANT เป็นร้านFine dining อาหารสไตล์อิตาเลียนที่จะใช้วัตถุดิบหลักๆอย่างเห็ดทรัฟเฟิลและวัตถุดิบชั้นเลิศอื่นๆมาประกอบอาหาร แบรนด์อูบานี่ซึ่งเป็นแบรนด์ที่คัดสรรและผลิตสินค้าจากทรัฟเฟิลมามากกว่า 200ปีครองตลาดมากกว่า 70% ของตลาดทรัฟเฟิลในโลก ทรัฟเฟิลที่ใช้ก็เป็นทรัฟเฟิลนำเข้าเกรดพรีเมี่ยม น้ำมันมะกอกหรือเกลือที่ใช้ปรุงอาหารก็มีส่วนผสมของทรัฟเฟิล เรียกได้ว่าทุกอย่างจะมีส่วนผสมของเห็ดทรัฟเฟิลรวมอยู่ในนั้นด้วยแทบจะทุกเมนูเลย
การตกแต่ง
ความเจ๋งของที่นี่ คือการตกแต่งแทบจะทั้งหมดของร้าน จะสามารถมองเห็นวิว รอบด้านจากวิวสูงชั้น39ได้หมดเลย และส่วนใหญ่ จะจัดเรียงโต๊ะให้ติดกับ หน้าต่างแทบจะทั้งหมด หรือส่วนที่ไม่ได้ติดหน้าต่างก็ยังเห็นวิวในมุมกว้างและสวยงามไม่ต่างจากเดิมอยู่ดีครับ






นอกจากทรัฟเฟิลแล้วที่นี่ยังมีไวน์อิตาลีชั้นดีให้เลือกดื่มกว่า 200 เลเบล และ แชมเปญดอมเปอริยอง ซึ่งถือเป็นแชมเปญเกรดพรี่เมี่ยมที่เป็นที่รู้จักของนักดื่มมาอย่างยาวนาน


(เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเห็ดทรัฟเฟิล – ที่เห็ดชนิดมีนี้แพงมากๆเพราะว่า การเติบโตและการขึ้นของมันนั้นจะอยู่ใต้ดินลงไปลึก5-40เซนติเมตร ใช่ !! ปัญหาคือแล้วเราจะสังเกตุได้ยังไงว่ามันอยู่ตรงไหน แต่มีคนค้นพบว่ากลิ่นของเจ้าเห็ดชนิดนี้เหมือนกลิ่นของ ฟีโรโมนที่เอาไว้ดึงดูดใจหมูเพศเมีย สมัยก่อนจึงใช้หมูตัวเมียในการค้นหาเห็ดชนิดนี้แต่พอหมูตัวเมียหาเจอก็โดนกินเรียบ ภายหลังจึงใช้สุนัขในการค้นหาแทน แต่ปัจจุบันนี้เค้าเลิกใช้วิธีแบบนี้กันไปหมดแล้วนะ(หรืออาจจะยังมีบ้าง) เพราะมีคนที่สามารถมีการเพาะเลี้ยงเจ้าเห็ดชนิดนี้ขึ้นมาได้แต่ถึงยังไงมันก็ยังแพงมากๆอยู่ดี)
ในวันนี้เราได้รับเชิญมาในงาน Wine Pairing Dinner ซึ่งทางในงานจะเสิร์ฟคอร์สให้เราได้ทานกันที่ คอร์ส 5 เมนู และมีการเชฟโชว์การCooking สปาเกตตี้ซอสเห็ดทรัฟเฟิลให้เราดูด้วย



Course : 5 Menu
วันนี้ทางร้านได้มีการเสิร์ฟให้เราได้ทานเป็น แบบคอร์ส5เมนูด้วยกัน ทุกเมนูที่เสริฟ์จะมีปรุงเห็ดทรัฟเฟิลอยู่ด้วยในทุกเมนูและที่สำคัญการเสิร์ฟแต่ละเมนูจะมีไวน์ขาวและไวน์แดงเสิร์ฟคู่ด้วยเสมอ เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติให้กับอาหารและไวน์ ให้มีรสชาติดีขึ้นมากกว่าที่เราเคยสัมผัส
Amis Bouche:Yogurt Truffle Sphere
ก่อนจะไปเริ่มเข้าเมนูหลักในเมนูแรก ทางร้านเสริฟ์โยเกิร์ตเป็นชิ้นกลมๆแบบพอดีคำ พร้อมกับโรยทรัฟเฟิลท็อปมาข้างบนของโยเกิร์ต เป็นเมนูของทานเล่นกเป็นการกินโยเกิร์ตแบบเปิดประสบการณ์ใหม่มากๆ เรียกได้ว่ากลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิลตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ รสชาติเปรี้ยวนำและกลิ่นหอมแบบลักษณะเฉพาะตัวของเห็ดทรัฟเฟิลตามมาประกบในตอนจบแบบหอมทิ้งไว้ในจมูกมากๆ (เมนูนี้จะถูกสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆจะไม่เหมือนกันทุกครั้งที่เรามาใช้บริการนะครับ)

First Course : Cold Lobster and Truffle (PIPER-HEIDSIECK CHAMPAGNE)
คอร์สแรก ที่เรียกว่าเป็นการเริ่มต้น ด้วยการเสริฟ์กุ้งล็อบสเตอร์ปรุงสุกในซุปที่ลักษณะคล้ายเยลลี่ ตัวนี้รสชาติจะออกเปรี้ยวๆเฟรชๆ แนะนำให้ตักทรัฟเฟิลที่ฝานบางๆอยู่บนจานมาทานด้วย นะทำให้รสชาติดียิ่งขึ้นครับ ส่วนตัวผักและเนื้อส้มที่อยู่บนจานแนะนำให้กินคู่กับกุ้งล็อบสเตอร์จะช่วยดับกลิ่นคาวได้ดีเยี่ยมเลย เสิร์ฟพร้อมไวน์ขาว (PIPER-HEIDSIECK CHAMPAGNE) รสชาติเบาๆ ทานคู่กับจานนี้ทำให้รสชาติหวานขึ้น


Second Course : Tortellini Truffle pate in consomme (PINOT GRIGON,DELLE VENEZIE)
คอร์สที่2 เสิร์ฟTortellini ที่ข้างในเป็นไส้ที่มีการผสมเห็ดทรัฟเฟิลเข้าไปกลิ่นดีชัดเจนมากๆ ซุปไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรแต่รสชาติจะออกไปทางจืด ทานพร้อมกับไวน์ขาวรสชาติเบาๆที่เสิร์ฟคู่กับมา ถือว่าทำได้ดีมากๆ เพราะจานนี้ถือว่ารสชาติอ่อนพอสมควร

Third Course : Pan Seared Halibut (COSTA DI GIOLIA,BOLOGHERI BIANCO)
ไปต่อที่เมนูเบาๆเมนูที่สามเริ่มไต่ระดับมาที่ปลาแฮลิบัตเนื้อขาวแน่น เซียกับกะทะให้ผิวเนื้อปลาด้านนอกพอกรุบกรอบพอประมาณ กินกับซอส กระเทียมย่าง และ ราสเบอรี่ที่ทางร้านเตรียมมาให้แล้วหอมกระเทียมเปรี้ยวตัดได้ลงตัวมากๆ เสิร์ฟพร้อมไวน์ขาวที่ยิ่งทานคู่กับปลาก็ยิ่งทำให้เนื้อปลารสชาติหวานขึ้นแบบรู้สึกได้เลย


Fourth Course : Australian Beef Tenderloin and Wild Mushroom (DOLGANI DE NOMIWAZIONE,D.O.C.G)
เรียกได้ว่า ถึงเวลาของพระเอกแล้ว กับเนื้อเทนเดอร์ลอยออสเตรเลียที่เสิร์ฟมาในระดับความสุกมิเดียมแรร์ที่ภายนอกคลุกเคล้ากับเห็ดทรัฟเฟิลและเครื่องปรุง เสิร์ฟพร้อมเห็ดและถั่วลันเตาภายในจาน แน่นอนว่าเมนูเนื้อแบบนี้ ต้องทานคู่กับไวน์แดง (DOLGANI DE NOMIWAZIONE,D.O.C.G) ซึ่งตัวจะทำให้ตัวรสชาติของเนื้อหวานฉ่ำขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวและรับรองได้เลยว่าเนื้อที่ในมิติที่เราไม่เคยได้สัมผัสรสชาติแบบนี้มาก่อน


Fifth Course : Meringue Tiramisu (VEVUE CLICQUOT,BRUT)
ขนมหวานปิดท้ายเมนูที่5ของคอร์สนี้ เป็นเมอแรงที่หน้าตาสวยงามทำยากมากๆ มีการเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้วอดก้าเทใส่แล้วเบิร์นไฟให้ตัวเมอแรงค์ตัวนี้มีกลิ่นหอมขึ้นด้วย ข้างในเป็นไอศครีมมีไส้เป็นกาแฟทิรามิสุ ตัวนี้ก็ทานคู่กับ ไวน์ขาวเช่นกัน


ก่อนจะจบการรีวิวนี้ไป ก็อยากบอกว่าจริงที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเห็ดทรัฟเฟิลอีกมากมาย (จริงๆมีทั้งทุเรียน มันฝรั่ง เผือกทอด) เช่นเมนูนี้ ทุเรียนทอดโรยเห็ดทรัฟเฟิล ซึ่งแมนบอกได้เลยว่าเด็ดมาก ได้กินคู่กับเบียร์ น่าจะเป็นอะไรที่สุดจริงๆ ทางร้านมีขายอยู่ในร้านเลย แต่ซองละเท่าไหร่แมนไม่แน่ใจแนะนำในไปถามทางร้านได้เลยครับ

สำหรับใครที่อยากมาทาน ที่ Urbani truffle bar & restaurant Sathron Square ชั้น39 แห่งนี้
ราคาคอร์สมีด้วยกัน 2 ราคา 2 เวลา
ได้แก่ Brunch(กลางวัน)และDinner(เย็น)
คอร์ส 5 เมนู ราคาอยู่ที่ 3,900 บาท
คอร์ส 7 เมนู ราคาอยู่ที่ 5,500 บาท
ติดต่อสอบถามได้ที่ Facebook : https://web.facebook.com/Urbanitrufflebarbangkok/?_rdc=1&_rdrเจ๋งแบบนี้ต้องแชร์!!